วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

มาตราตัวสะกด

         มาตราตัวสะกด คือ กลุ่มพยัญชนะที่ประกอบอยู่ท้ายคำหรือพยางค์ใน แม่ ก กา ทำให้เสียงของคำแตกต่างกันตามพยัญชนะที่นำมาประกอบ เช่น ตา เมื่อประสมกับ ล กลายเป็น ตาล, ชา เมื่อประสมกับ ม  กลายเป็น ชาม เป็นต้น
        มาตรา ก กา หรือ แม่ ก กา  คือ คำหรือพยางค์ที่ไม่มีพยัญชนะเป็นตัวสะกด โดยอ่านออกเสียงเป็นสระ เช่น หู ตา ขา ลา กา ปลา เสือ โต๊ะ ตู้ ประตูฯลฯ ทั้งนี้ แม่ ก กา เป็นหนึ่ง ในมาตราไทย แต่ไม่ถือว่าเป็นมาตราตัวสะกด เนื่องจากไม่มีพยัญชนะต่อท้าย ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่ามาตราตัวสะกดมี 8 มาตรา คือ กก กด กบ กม เกย เกอว กง กน 

สำหรับการใช้มาตราตัวสะกด ทั้ง 8 มาตรา แบ่งได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้

        1. มาตราตัวสะกดตรงแม่ ใช้ตัวสะกดตัวเดียว มี 4 มาตรา ดังนี้  แม่กง  แม่กม  แม่เกย  แม่เกอว    

      แม่กง








      แม่กง พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ 

      คือ เช่น กางเกง กระโปรง รองเท้า หนังสือ โรงเรียน ยางลบ เตียง พวงกุญแจ กล่องดินสอ ห่วงยาง 













      แม่กม






      แม่กม พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ 
      คือ เช่น ร่ม ส้อม พัดลม กระดุม แชมพู โฟมล้างหน้า สนามกีฬา เข็มกลัด โคมไฟ ไอศกรีม 











      แม่เกย





      แม่เกย พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ 
      คือ เช่น สร้อยคอ กระเป๋าสะพาย ทางม้าลาย น้อยหน่า พลอย นักมวย  รอยเท้า ไฟฉาย ถ้วยกาแฟ ป้ายจราจร











      แม่เกอว







      แม่เกอว พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ เช่น คอมพิวเตอร์ แก้วน้ำ มะนาว ไข่เจียว ก๋วยเตี๋ยว ทิวทัศน์ มะพร้าว ต้นข้าว ดวงดาว บ่าวสาว นิ้ว 









                 2. มาตราตัวสะกดไม่ตรงแม่ มีตัวสะกดหลายตัวในมาตราเดียวกัน เพราะออกเสียงเหมือนตัวสะกดเดียวกัน มี 4 มาตรา คือ แม่กน  แม่กก  แม่กด  แม่กบ
      แม่กน





      แม่กน  พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ  น ญ ณ ร ล ฬ เช่น ช้อน กรรไกร บันได ยาสีฟัน โลชั่น ฟุตบอล การบ้าน ตู้เย็น ปฏิทิน เหรียญ แจกัน












      แม่กก






      แม่กก  พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ก ข ค ฆ เช่น  กระจก หมวก คุกกี้  ที่พัก ก้อนเมฆ ตุ๊กตา กระติกน้ำ เนคไท สติ๊กเกอร์ จิ๊กซอว์ สุนัข











      แม่กด





      แม่กด  พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ด จ ช ซ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ษ ส สะกด เช่น กระดาษ สมุดโน้ต ไม้บรรทัด นิตยสาร ไม้กวาด คีย์บอร์ด เสื้อเชิ้ต เตารีด โทรทัศน์ โปสเตอร์ รถเมล์











      แม่กบ





      แม่กบ  พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ บ ป ภ พ ฟ เช่น โทรศัพท์ รูปถ่าย ไมโครเวฟ ลิปสติก ธูปเทียน กรอบรูป ทัพพี ตะเกียบ ตลับยา แท็บเล็ต











      อ่านต่อได้ที่ : http://education.kapook.com/view59111.html

      อักษรควบ

                 หมายถึง   พยัญชนะสองตัวเรียงกันออกเสียงกล้ำเป็นพยางค์เดียวนั้นในการผันก็เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้วด้วยเช่นกัน

                    อักษรควบมี 2 ประเภท คือ อักษรควบแท้และอักษรควบไม่แท้


      1. อักษรควบแท้    คือพยัญชนะ  2  ตัว ที่มี   ตัว   ร  ล  ว  ประสมอยู่ด้วย ประสมด้วยสระเดียวกัน อ่านออกเสียง พร้อมกันทั้ง 2 ตัว เช่น   กลาง  ครัว กวาง
      2. อักษรควบไม่แท้   ได้แก่   พยัญชนะที่มีตัว  ร   ควบอยู่ด้วยแต่ไม่ออกเสียงตัว ร  หรือมิฉะนั้นก็ออกเสียงเป็น เสียงอื่นไป  
      ตัวอย่างอักษรควบไม่แท้ที่ออกเสียงแต่พยัญชนะตัวแรก เช่น  
                 
      จริง ไซร้   สร้าง   ศรี  เศรษฐี
      ตัวอย่างอักษรควบไม่แท้ ทร ออกเสียงเป็น 
                   
      ไทร  ทราย   อินทรีย์   ทรัพย์   มัทรี ฯ
      ตัวอย่างการผันอักษรควบไม่แท้
                   
      สามัญ          เอก          โท          ตรี          จัตวา
                    
      จริง             จริ่ง          จริ้ง         จริ๊ง          จริ๋ง
                     –                
      สร่าง        สร้าง         –           สราง
                    
      ไซร                –           ไซร่          ไซร้           –

      การอ่านทำนองเสนาะ

      ๑. ความหมายของ การอ่านทำนองเสนาะ
          การอ่านทำนองเสนาะคือวิธีการอ่านออกเสียงอย่างไพเราะตามลีลาของบทร้อยกรองแต่ละประเภทหรือหมายถึง การอ่านตามทำนอง (ทำนอง คือ ระบบเสียงสูงต่ำ ซึ่งมีจังหวะสั้นยาว)เพื่อให้เกิดความเสนาะ น่าฟัง

      ๒. วัตถุประสงค์ในการอ่านทำนองเสนาะ

              การอ่านทำนองเสนาะเป็นการอ่านให้คนอื่นฟัง ฉะนั้นทำนองเสนาะต้องอ่านออกเสียง เสียงทำให้เกิดความรู้สึก-ทำให้เห็นความงาม-เห็นความไพเราะ-เห็นภาพพจน์ ผู้ฟังสัมผัสด้วยเสียงจึงจะเข้าถึงรสและความงามของบทร้อยกรองที่เรียกว่าอ่านแล้วฟังพริ้งเพราะเสนาะโสต การอ่านทำนองเสนาะจึงมุ่งให้ผู้ฟังเข้าถึงรสและเห็นความงามของบทร้อยกรอง

      ๓. รสที่ใช้ในการอ่านทำนองเสนาะ

              ๓.๑ รสถ้อย (คำพูด) แต่ละคำมีรสในคำของตัวเอง ผู้อ่านจะต้องอ่านให้เกิดรสถ้อย
                    ตัวอย่าง

                          สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน               ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม
                     กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม        อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม
                     แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม       ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม
                     ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์              ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย
                                                    (พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงบดินทร์ไพศาลโสภณ)

              ๓.๒ รสความ (เรื่องราวที่อ่าน) ข้อความที่อ่านมีเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร เช่น โศกเศร้าสนุกสนาน ตื่นเต้น โกรธ รัก เวลาอ่านต้องอ่านให้มีลีลาไปตามลักษณะของเนื้อเรื่องนั้นๆ

                    
      ตัวอย่าง 
                          ลูกก็แลดูแม่แม่ดูลูก                     ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล
                    สะอื้นร่ำอำลาด้วยอาลัย                        แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา
                    เหลียวหลังยังเห็นแม่แลเขม้น                 แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา
                    แต่เหลียวเหลียวเลี้ยวลับวับวิญญาณ์         โอ้เปล่าตาต่างสะอื้นยืนตะลึง
                                     (เสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม : สุนทรภู่)

             ๓.๓ รสทำนอง (ระบบเสียงสูงต่ำซึ่งมีจังหวะสั้นยาว) ในบทร้อยกรองไทยจะประกอบด้วยทำนองต่างๆ เช่น ทำนองโคลง ทำนองฉันท์ ทำนองกาพย์ ทำนองกลอนและทำนองร่าย เป็นต้น
                   ตัวอย่าง 
                                สัตว์ พวกหนึ่งนี้ชื่อ                 พหุบา ทาแฮ
                         มี     อเนกสมญา                         ยอกย้อน
                         เท้า   เกิดยิ่งจัตวา                         ควรนับ เขานอ
                         มาก  จวบหมิ่นแสนซ้อน                  สุดพ้นประมาณฯ
                            (สัตวาภิธาน : พระยาศรีสนทรโวหาร (น้อย อาจารยากูร)

             ๓.๔ รสคล้องจอง ในบทร้อยกรองต้องมีคำคล้องจอง ในคำคล้องจองนั้นต้องให้ออกเสียง
      ต่อเนื่องกันโดยเน้นสัมผัสนอกเป็นสำคัญ เช่น                
                         ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง            มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา            
                  โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา                  ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
                  ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ                    พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
                  ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย                        ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
                  ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก                 สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
                  ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป                    แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
      (นิราศภูเขาทอง : สุนทรภู่)
             ๓.๕ รสภาพ เสียงทำให้เกิดภาพ ในแต่ละคำจะแฝงไปด้วยภาพในการอ่านให้เห็นภาพต้องใช้เสียงสูง-ต่ำ ดัง ค่อย แล้วแต่จะให้เกิดภาพอย่างไร เช่น               
                      “มดเอ๋ยมดแดง                              เล็กเล็กเรี่ยวแรงแข็งขยัน
                      “สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย                    งามชดช้อยลอยหลังสินธ์ุ
                      “อยุธยายศล่มแล้ว                          ลอยสวรรค์ ลงฤๅ
      ๔. หลักการอ่านทำนองเสนาะ มีดังนี้
              ๑. ก่อนอ่านทำนองเสนาะให้แบ่งคำแบ่งวรรคให้ถูกต้องตามหลักคำประพันธ์เสียก่อนโดยต้องระวังในเรื่องความหมายของคำด้วย เพราะคำบางคำอ่านแยกคำกันไม่ได้
              ๒. อ่านออกเสียงธรรมดาให้คล่องก่อน
              ๓. อ่านให้ชัดเจน โดยเฉพาะออกเสียง ร ล และคำควบกล้ำให้ถูกต้อง 
              ๔. อ่านให้เอื้อสัมผัส เรียกว่า คำแปรเสียง เพื่อให้เกิดเสียงสัมผัสที่ไพเราะ เช่น พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา (อ่านว่า พฺระ-สะ-หมุด-สุด-ลึก-ล้น คน-นะ-นา)ข้าขอเคารพอภิวาท ในพระบาทบพิตรอดิสร (อ่านว่า ข้า-ขอ-เคา-รบ-อบ-พิ-วาด ใน-พฺระ-บาด-บอ-พิด-อะ-ดิด-สอน
             ๕. ระวัง ๓ ต อย่าให้ตกหล่น อย่าต่อเติม และอย่าตู่ตัว
             ๖. อ่านให้ถูกจังหวะ คำประพันธ์แต่ละประเภทมีจังหวะแตกต่างกัน ต้องอ่านให้ถูกวรรคตอนตามแบบแผนของคำประพันธ์นั้นๆ เช่น มุทิงคนาฉันท์ (๒-๒-๓)  เช่น 
                        ป๊ะโท่น / ป๊ะโทน /ป๊ะโท่นโท่น           บุรุษ / สิโอน / สะเอวไหว
                          อนงค์ / นำเคลื่อน / เขยื้อนไป            สะบัด / สไบ / วิไลตา
             ๗. อ่านให้ถูกทำนองของคำประพันธ์นั้นๆ (รสทำนอง)
             ๘. ผู้อ่านต้องใส่อารมณ์ตามรสความของบทประพันธ์นั้นๆ รสรัก โศก ตื่นเต้น ขบขัน โกรธ แล้วใส่น้ำเสียงให้สอดคล้องกับรสหรืออารมณ์ต่างๆ เหล่านั้น
             ๙. อ่านให้เสียงดัง (พอที่จะได้ยินกันทั่วถึง)ไม่ใช่ตะโกน
             ๑๐. เวลาอ่านอย่าให้เสียงขาดเป็นช่วงๆ ต้องให้เสียงติดต่อกันตลอด เช่น
                      “วันจันทร มีดารากร เป็นบริวาร เห็นสิ้นดินฟ้า ในป่าท่าธาร มาลีคลี่บาน ใบก้านอรชร
             ๑๑. เวลาจบให้ทอดเสียงช้าๆ
      ๕. ประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านทำนองเสนาะ
             ๑. ช่วยให้ผู้ฟังเข้าถึงรสและเห็นความงามของบทร้อยกรองที่อ่าน
             ๒. ช่วยให้ผู้ฟังได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง (อาการรู้สึกจับใจอย่างลึกซึ้ง)
             ๓. ช่วยให้เกิดความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน
             ๔. ช่วยให้จดจำบทร้อยกรองได้รวดเร็วและแม่นยำ
             ๕. ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนอ่อนโยนและเยือกเย็น (ประโยชน์โดยอ้อม)
             ๖. ช่วยสืบทอดวัฒนธรรม ในการอ่านทำนองเสนาะไว้เป็นมรดก





      คำราชาศัพท์

             


           คำราชาศัพท์   หมายถึง   ถ้อยคำสุภาพ ไพเราะที่ใช้ให้เหมาะกับฐานะของบุคคลในสภาพสังคมไทย ซึ่งผู้ที่ต้องใช้คำราชาศัพท์ด้วยมี ดังนี้

      1. พระมหากษัตริย์ 
      2. พระบรมวงศานุวงศ์ 
      3. พระภิกษุ 
      4. ขุนนางข้าราชการ 
      5. สุภาพชน
      ที่มาของคำราชาศัพท์
      1. รับมาจากภาษาอื่น                                                                                                              ภาษาเขมร  เช่น  โปรด เขนย เสวย เสด็จ เป็นต้น 
                 ภาษาบาลี-สันสกฤต เช่น อาพาธ เนตร หัตถ์ โอรส  เป็นต้น
      2. การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยการประสมคำ เช่น ลูกหลวงซับพระพักตร์ ตั้งเครื่อง เป็นต้น

      คำราชาศัพท์หมวดเครื่องใช้ 



      เครื่องใช้
      คำราชาศัพท์
      เครื่องใช้
      คำราชาศัพท์
      เสื้อ

      รองท้า

      ของเสวย

      ที่นอน

      ม่าน, มุ้ง

      ถาดน้ำชา

      คนโทน้ำ

      ผ้าอาบน้ำ

      ปืน

      เข็มขัด


      ประตู

      เตียงนอน

      ผ้าเช็ดตัว
      ฉลองพระองค์

      ฉลองพระบาท

      เครื่อง

      พระยี่ภู่

      พระวิสูตร พระสูตร

      ถาดพระสุธารส

      พระสุวรรณภิงคาร

      พระภูษาชุบสรง

      พระแสงปืน

      รัดพระองค์ , ผ้าชุบสรง , ผ้าสรง พระปั้นเหน่ง

      พระทวาร

      พระแท่นบรรทม

      ซับพระองค์ 
      ผ้าเช็ดหน้า

      กระจกส่อง

      ข้าว


      น้ำกิน

      ตุ้มหู

      ช้อน

      ช้อนส้อม

      ปิ่น

      ไม้เท้า

      หมาก  

      น้ำชา

      เหล้า

      กางเกง
      ซับพระพักตร์

      พระฉาย

      พระกระยาเสวย( พระมหากษัตริย์ )

      พระสุธารส

      พระกุณฑลพาน

      ฉลองพระหัตถ์

      ฉลองพระหัตถ์ส้อม

      พระจุฑามณี

      ธารพระกร

      พานพระศรี

      พระสุธารสชา

      น้ำจัณฑ์

      พระสนับเพลา พระที่ (ราชวงศ์)


      คําราชาศัพท์หมวดร่างกาย



      ร่างกาย -- คำราชาศัพท์
      ร่างกาย -- คำราชาศัพท์
      ผม -- พระเกศา

      ไหปลาร้า -- พระรากขวัญ

      หน้าผาก -- พระนลาฎ

      ท้อง -- พระอุทร

      หลัง -- พระขนอง

      นิ้วมือ -- พระองคุลี

      บ่า -- พระอังสะ

      จุก -- พระโมฬี

      นม -- พระถัน, พระเต้า

      นิ้วชี้ -- พระดรรชนี

      จมูก -- พระนาสิก

      ฟัน -- พระทนต์

      อก -- พระอุระ, พระทรวงหู -- พระกรรณ

      เอว -- บั้นพระองค์, พระกฤษฎี

      ลิ้น -- พระชิวหา

      ผิวหนัง -- พระฉวี

      ข้อเท้า -- ข้อพระบาท

      ปอด -- พระปับผาสะ

      ปาก -- พระโอษฐ์

      คาง -- พระหนุ

      รักแร้ -- พระกัจฉะ

      ดวงหน้า -- พระพักตร์

      ผิวหน้า -- พระราศี



      ลิ้นไก่ -- มูลพระชิวหา
      ไรฟัน -- ไรพระทนต์

      ตะโพก -- พระโสณี

      แข้ง -- พระชงฆ์

      นิ้วก้อย -- พระกนิษฐา

      คอ -- พระศอ

      เนื้อ -- พระมังสา

      เหงื่อ -- พระเสโท

      ปัสสาวะ -- พระบังคนเบา

      สะดือ -- พระนาภี

      อุจจาระ -- พระบังคนหนัก

      ขน -- พระโลมา

      เถ้ากระดูก -- พระอังคาร

      น้ำลาย -- พระเขฬะ

      ข้อมือ -- ข้อพระหัตถ์

      คิ้ว -- พระขนง

      น้ำตา -- น้ำพระเนตร,

      ต้นขา -- พระอุรุ พระอัสสุชล

      หัวเข่า -- พระชานุ

      ต้นแขน -- พระพาหุ

      ขนระหว่างคิ้ว -- พระอุณาโลม

      เงา -- พระฉายา

      จอนหู -- พระกรรเจียก





      คําราชาศัพท์หมวดเครือญาติ ราชตระกูล




      คำศัพท์
      คำราชาศัพท์ 
      คำศัพท์
      คำราชาศัพท์ 
      พ่อ
      พระชนก พระบิดา 
      แม่
      พระชนนี,พระมารดา 
      ปู่, ตา
      พระอัยกาพระอัยกี 
      ย่า, ยาย
      พระอัยยิกา 
      ลุง
      พระปิตุลา 
      ป้า
      พระปิตุจฉา 
      พี่ชาย
      พระเชษฐา 
      พี่สาว
      พระเชษฐภคินี 
      น้องชาย
      พระอนุชา 
      ลูกสะใภ้
      พระสุณิสา 
      พ่อผัว, พ่อตา
      พระสัสสุระ 
      พี่เขย, น้องเขย
      พระเทวัน 
      ผัว
      พระสวามี 
      ลูกเขย
      พระชามาดา 

      คําราชาศัพท์หมวดคำกริยา



       คำศัพท์
      คำราชาศัพท์
      คำศัพท์
      คำราชาศัพท์
      ถาม
      พระราชปุจฉา
      ดู  
      ทอดพระเนตร
      ทักทายปราศรัย
      พระราชปฏิสันถาร
      ให้
      พระราชทาน
      ไปเที่ยว
      เสด็จประพาส
      อยากได้ 
      ต้องพระราชประสงค์
      ทาเครื่องหอม
      ทรงพระสำอาง
      เขียนจดหมาย 
      พระราชหัตถเลขา
      ไหว้
      ถวายบังคม
      แต่งตัว 
      ทรงเครื่อง
      อาบน้ำ
      สรงน้ำ
      มีครรภ์ 
      ทรงพระครรภ์
      ตัดสิน
      พระบรมราชวินิจฉัย
      หัวเราะ 
      ทรงพระสรวล
      นอน
      บรรทม
      รับประทาน 
      เสวย
      นั่ง
      ประทับ
      ป่วย
      ประชวร
      ไป
      เสด็จ
      ชอบ
      โปรด


      คําราชาศัพท์หมวดสรรพนาม 




      คำที่ใช้แทน
      คำราชาศัพท์ 
      ใช้กับ
      แทนชื่อผู้พูด (บุรุษที่ 1)
      ข้าพระพุทธเจ้า 
      กระผม, ดิฉัน 
      พระมหากษัตริย์
      ผู้ใหญ่, พระสงฆ์
      แทนชื่อที่พูดด้วย (บุรุษที่ 2)
      ใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาท 
      ใต้ฝ่าละอองพระบาท
      พระมหากษัตริย์
      พระบรมราชินี
      พระบรมราชนนี
      พระบรมโอสรสาธิราช
      พระบรมราชกุมารี
      แทนชื่อที่พูดด้วย
      ฝ่าพระบาท 
      เจ้านายชั้นสูง
      แทนชื่อที่พูดด้วย
      พระคุณเจ้า 
      พระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์
      แทนชื่อที่พูดด้วย
      พระคุณท่าน 
      พระภิกษุสงฆ์ทั่วไป
      แทนชื่อที่พูดด้วย
      พระเดชพระคุณ 
      เจ้านาย, หรือพระภิกษุที่นับถือ
      แทนผู้ที่พูดถึง (บุรุษที่ 3)
      พระองค์ 
      พระราชา, พระพุทธเจ้า, เทพผู้เป็นใหญ่
      แทนผู้ที่พูดถึง
      ท่าน  
      เจ้านาย, ขุนนางผู้ใหญ่, พระภิกษุ, ผู้ใหญ่ที่นับถือ

       คําราชาศัพท์หมวดพระสงฆ์


       คำสามัญ
      ราชาศัพท์ 
      คำสามัญ
      ราชาศัพท์ 
      สรงน้ำ
      อาบน้ำ  
      จังหัน
      อาหาร 
      คำสอน(พระสังฆราช)
      พระโอวาท 
      คำสั่ง(พระสังฆราช)
      พระบัญชา 
      จำวัด
      นอน
      ฉัน
      รับประทาน
      ธรรมาสน์(พระสังฆราช)
      พระแท่น
      จดหมาย(พระสังฆราช)
      พระสมณสาสน์
      นิมนต์
      เชิญ
      อาพาธ
      ป่วย
      ที่นั่ง
      อาสนะ
      จดหมาย
      ลิขิต
      ปัจจัย
      เงิน
      ปลงผม
      โกนผม
      เรือนที่พักในวัด
      กุฏิ
      ห้องอาบน้ำ
      ห้องสรงน้ำ
      ประเคน
      ถวาย
      เพล
      เวลาฉันอาหารกลางวัน
      ห้องสุขา
      ถาน,เวจกุฎี
      อาหาร
      ภัตตาหาร
      มรณภาพ
      ตาย
      ประเคน
      ถวาย
      คำแจ้งถวายจตุปัจจัย
      ใบปวารณา
      อาหารถวายพระด้วยสลาก
      สลากภัต
      อังคาด
      เลี้ยงพระ
      ลิขิต
      จดหมาย
      สถานที่พระภิกษุใช้อาศัย
      เสนาสนะ
      เครื่องนุ่งห่ม
      ไตรจีวร
      ยารักษาโรค
      คิลานเภสัช
      คนรู้จัก
      อุบาสก,อุบาสิกา
      รูป
      ลักษณนามสำหรัพระภิกษุ
      องค์
      ลักษณนามสำหรัพระพุทธรูป